House Of Eden คาเฟ่ธีมสีพีชสดใส มุมไหนก็สวย 2 สาขากลางใจเมือง

House Of Eden คาเฟ่พีช มุ้งมิ้งกลางสยาม ที่มาแรงที่สุดในเวลานี้ ด้วยการคุมโทนสีชมพูพีช แนว ๆ โรสโกล ถือว่าเป็นจุดเด่นให้กับคาเฟ่แห่งนี้เลย นอกจากสีสันของร้านแล้ว การตกแต่งร้าน โต๊ะ ที่นั่งภายในร้าน และอุปกรณ์โดยรวมยังคุมโทนตามธีมพีชอีกด้วย สังเกตจากเก้าอี้รูปทรงลูกพีชมุ้งมิ้ง น่ารักมาก ๆ จะถ่ายรูปมุมไหนก็สวย ดาราเซเลบพากันมาถ่ายรูปเช็คอินกันเต็มไอจี

สาขาของคาเฟ่ House Of Eden มีทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ สาขา Siam Discovery ที่เป็นสาขาใหม่ จะตั้งอยู่ชั้น 2 บริเวณใกล้ ๆ กับ Loft และสาขาที่เรากำลังจะรีวิว ณ ขณะนี้นั้น เป็นสาขา Groove Central World ที่เป็นสาขาดั้งเดิมนั้นเอง

การเดินทางไป House Of Eden สาขา Groove Central World นั้น สามารถขึ้นไปทางชั้น 2 และเดินทางเข้าไปในทางเข้า Groove ได้เลยจ้า หรือถ้าเดินมาจากสยามจะมีทางเชื่อมจากสกายวอร์คเข้า Groove เดินเข้ามาจะสังเกตเห็นคาเฟ่ได้ไม่ยาก


Peach Theme by House Of Eden

เมื่อเดินทางมาถึงหน้าร้าน House of Eden สาขา Groov Central World ก็จะเห็นความพีช สีมุ้งมิ้งมาแต่ไกล ไม่หลงอย่างแน่นอน

บริเวณหน้าร้าน จะมีเก้าอี๊พีชชุดใหญ่ เป็นโต๊ะและมุมยอดฮิต ที่เหล่าดารา เซเลบ ทั้งหลายชอบมานั่งถ่ายรูปกัน

ส่วนฝั่งตรงข้ามร้าน ก็จะมีโต๊ะเล็ก ๆ เป็นมุมสำหรับรับลมชมวิวกับธรรมชาติในโซน Groove

พอเข้ามาในตัวร้าน มีที่นั่งประมาณ 15-20 โต๊ะ ไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่อึดอัดจนเกินไป

ความชมพู วิ้ง ๆ เต็มไปหมด ว่าแล้วเราก็เริ่มเปิดเมนู สั่งอาหารกันได้เลยยยยย  คลิกเพื่อดูเมนู ราคา ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และของหวาน House Of Eden


DRINK

เริ่มต้นความสดใสกับเมนูเครื่องดื่มอย่าง Mixed Berry Soda (130 บาท) เป็นมิกซ์เบอรี่ ที่มีความหอม สดชื่น น่ารักสดใสตามคอนเซ็ปต์ ส่วนข้าง ๆ นั้นคือ น้ำเปล่า (40 บาท) นี่ไม่ได้จะมาบรรยายรสชาตินะ แต่แค่อยากจะโชว์แก้วให้ดู คือน่ารักมากกกก ยังคงความเป็นพีชได้อีก สุดยอด น่าร้ากกกก


ตามด้วยเมนูใหม่ล่าสุดอย่าง Royal Bubble Milk Tea x Ronnefeldt (180 บาท) คือ The Best Taste Ever ของ House Of Eden เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นชานมไข่มุกพรีเมี่ยมที่เดียวในประเทศไทย เพราะทางร้านเค้าใช้ชา Ronnefeldt เป็นแบรนด์ระดับโลก จาก Germany เลยทีเดียว

บอกเลยว่า ชานมของเค้าเข้มข้น หอมแบบแปลกใหม่ ต่างจากเจ้าอื่นโดยสิ้นเชิง ทางร้านชงรสชาติกลาง ๆ ไม่หวาน เพราะความหวานไปอยู่ที่เมอแรงค์ เบิร์นไฟฟูฟ่อง หอมนุ่มมมมจริง ๆ มีความพรีเมียมสูงมากกก

และที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ “ไข่มุก” เป็นไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ ที่สำคัญคือนุ่มมากกกก และไม่เป็นไต ชอบความใส่ใจของร้านที่ว่า ต้องใช้หลอดไข่มุกขนาดเล็กหน่อย เพราะจะได้ไม่ดูดหมดในทีเดียว เนื่องจากไข่มุกเม็ดเล็กมากจริง ๆ


A LA CARTE

เกริ่นกันมาเยอะมากแล้ว ขอเริ่มเมนูอาหารที่อยากจะแนะนำ ในรีวิวนี้ขอเสนอ 3 เมนูเด็ดที่ต้องมาลอง!

เริ่มด้วยเมนูไทย ๆ อย่าง กะเพราหมูสับ – Stir fried minced pork and basil (190 บาท) เป็นหมูสับที่ไม่สับละเอียดนัก ผัดมาสีสันดูเข้มข้นดี โปะมากับไข่ออนเซนเยิ้ม ๆ แบบลาวา

ขอบอกตามตรงว่า ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรกับรสชาติสำหรับเมนูอาหารไทย ๆ ในร้านอาหารหรู ๆ แบบนี้เลย แต่ก็ต้องผิดคาด ! ผัดมาได้นัว กลมกล่อมแบบไทย ๆ เผ็ดจัดจ้านดี  ไม่เป็นกะเพราหลอกลวงเอาใจต่างชาติแน่นอน กินกับไข่ออนเซน เป็นอะไรที่เดอะเบสที่สุดแล้ว

ต่อกันด้วยเมนูสไตล์อิตาเลี่ยน เข้ากับบรรยากาศของร้านด้วย สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า – Spaghetti Carbonara, Spaghetti cream cheese and parmesan with bacon (270 บาท) เป็นสปาเก็ตตี้เห็ดครีมซอส และชีสพามีซาน กับเบคอนบิทกรุบกรอบ

คำแรกที่รู้สึกเลยคือ เข้มข้นมากกก ครีม และชีสคือจัดเต็มมากกก ใส่มาแบบไม่งก เข้มข้นถึงครีม และชีสจริง ๆ อร่อยแบบไม่เลี่ยน กินกับเบคอนบิทกรุบกรอบ รสเค็มหน่อย ๆ ทุกอย่างลงตัวดีมาก เป็นคาโบนาร่าที่อร่อยมาก ๆ อีกร้านหนึ่งที่อยากจะมาซ้ำบ่อย ๆ (ถ้ารวยนะ ฮ่า ๆ)

ปิดท้ายเมนูพิเศษ ที่แนะนำนั่นก็คือ Angle (Hair) in the garden (420 บาท) สำหรับคนที่ชอบรสชาติสไตล์รีซอตโต ต้องไม่พลาดเมนูนี้เลยล่ะ เสิร์ฟมารูปแบบอลัง จัดจานมาในรูปแบบของสวนตามชื่อเมนูเลยจ้า
เค้าใช้เส้น Angel hair บวกกับซอสสูตรพิเศษจากทางร้าน ออนท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน และไข่กุ้ง ตกแต่งเมนูสไตล์ธรรมชาติในสวน พร้อมกับไข่แดงลาวา และหอยเชลล์ ที่โปะด้วยไข่หอยเม่นอีกขั้นหนึ่ง เป็นเมนูที่ดูอลังการสมราคาคุยจริง ๆ

ฟีลลิ่งเหมือนกับกินโซบะที่เย็น ๆ เส้นนุ่ม ๆ แต่ไม่เละ คือทำมาลงตัวได้ดี ส่วนน้ำซอสสูตรเฉพาะนั้น คล้าย ๆ กับรีซอทโต และค่อนไปทางรสเค็ม หอม ๆ ส่วนหอยเชลล์ และไข่หอยเม่นนั้น สดและดีมาก ๆ การันตีได้เลยว่า วัตถุดิบเค้าดี และมีคุณภาพจริง ๆ


Don’t Miss Dessert !

เปิดเมนูของหวานแบบเบาเบา ด้วยความผสมผสานแบบไทยประยุกต์กับ Thai Tea Creme Brûlée  (195 บาท) เป็นเมนูที่ดูธรรมดา แต่น่ารักมาก ๆ ครีมหอมมาก ๆ กลิ่นชาไทยคือเข้มสุด ๆ ค่อนข้างหวานพอสมควร กินกับคัมเบิลที่อยู่รอบ ๆ กรุบกรอบเข้ากันได้ดี

Love Ya So Matcha Lava (220 บาท) เมนูของหวานที่สายรักมัทฉะ ชาเขียว ต้องหลงรัก

เพราะความเข้มข้นของมัทฉะที่ไหลเยิ้ม ขมหน่อย ๆ หวานกลาง ๆ เข้มข้นมาก ๆ เนื้อเค้กมัทฉะแน่น ๆ กรอบอ่อน ๆ หอม ๆ กินกับไอติมวนิลลา และ ครัมเบิ้ล ก็เข้ากันได้ดี ตัดเลี่ยนด้วยสตอรเบอรี่สด ลงตัวดีชอบมาก ๆ

ราคาอาหารและเครื่องดื่ม ยังไม่รวมค่าบริการ 10% และ VAT 7%


House Of Eden สาขา Siam Discovery

สาขา Siam Discovery เป็นสาขาน้องใหม่ล่าสุด ที่มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควรเลยทีเดียว แต่การตกแต่ง รูปแบบ โทนสี รวมไปถึงเมนูอาหารทุกอย่างนั้น เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน สะดวกสาขาไหน ก็ไปสาขานั้นกันได้เลยจ้าา

คาเฟ่สุดคิ้วโทนสีพีช House of Eden เป็นร้านอาหารที่มีครบทั้ง คาว หวาน เครื่องดื่ม และแอลกอฮอล์ โดยรวมแล้ว ราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าเทียบกับรสชาติอาหาร วัตถุดิบที่ดี และความน่ารักของร้าน ก็ถือว่า เป็นอีกหนึ่งของการพักผ่อน และให้รางวัลตัวเองได้ดีเลยทีเดียว

  • Location : สาขาแรก ชั้น 2 Groove Central World และสาขาที่สอง ชั้น 2 Siam Discovery
  • สาขาร้าน :
    – Siam Discovery ชั้น 2 โซนที่เชื่อมกับ Siam Center โทร 065-153-7999
    – Groove Central World ชั้น 2 โทร 062-420-7999
  • Open Hours : 10:00 – 22:00
  • Facebook : House Of Eden
  • Twitter : @HouseofEdenTH
  • IG : @houseofeden.th

Leave a Reply