เชื่อว่าเพื่อนๆ คงเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ คาเฟ่ Villa De Bear (วิลล่า เดอ แบร์) กันมาบ้างแล้ว จัดว่าเป็นร้านน่านั่งครบทุกบรรยากาศในร้านเดียว เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งนั่งชิล ฟังดนตรีสด สังสรรค์แบบครอบครัว แก๊งค์เพื่อน สวีทกับแฟน หรือว่าจะถ่ายรูปเช็คอินเก๋ๆ ก็ได้เหมือนกัน ส่วนอาหารนั้นมีให้เลือกหลากหลาย เบเกอรี่พี่หมีก็น่ารัก โดยในรีวิวนี้เราจะพาไปตะลุยบ้านพี่หมีกันอย่างจุใจ ตามมาชมความน่ารัก น่ากอดของร้าน Villa De Bear ราชพฤกษ์ กันเลย
เริ่มอยากชมบรรยากาศด้านในร้านกันแล้วใช่มั้ย อิอิ เราขอพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศโดยรวม และอาหาร & เครื่องดื่มด้วยคลิปวีดีโอด้านบนกันก่อน (หรือคลิกที่นี่เพื่อรับชมวีดีโอ)
ร้านน้องหมี Villa De Bear ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ถ้ามาจาก BTS บางหว้า มุ่งหน้าไปถนนบรมราชชนนี ตัวร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึง The Circle ประมาณ 1 กิโลเมตร มีที่จอดรถกว้างมาก หรือถ้าใครมารถสาธารณะ ก็ให้นั่งรถเมล์สาย 89 จาก BTS บางหว้า (หรือต่อแท็กซี่) ใช้เวลาไม่นานก็ถึงแล้ว สำหรับรถรถเมล์นั้นจะจอดทางเข้าหน้าร้านพอดีเลย สะดวกมากมาย
ก่อนอื่นเราขอพาเพื่อนๆ ไปดูบรรยากาศร้านก่อนน้า (แต่แอบเอารูปอาหารมายั่วน้ำลายก่อน อิอิ)
ได้ไปกินอีกหลาย ๆ รอบ บอกเลยว่าที่นี่ นี่เด่นในเรื่องความสดของซีฟู้ดจริง ๆ
ตื่นตาตื่นใจกับพี่หมีวิลลี่ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล
เมื่อมาถึงร้าน เราก็จะเห็นพี่หมี Villy ไซส์ยักษ์ตั้งเด่นคอยต้อนรับอยู่หน้าร้าน เป็นอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่ใครมาวิลล่า เดอ แบร์ จะต้องแวะถ่ายรูปกันก่อนกลับ
เริ่มเดินทางเข้าสู่โรงงานหมีกันเล้ยยย ภายนอกตกแต่งคล้ายกับสไตล์ Industrial ผนังเป็นอิฐสีขาวตัดด้วยเหล็กสีดำ
เข้ามาด้านในเราก็จะพบกับ Dessert bar โซนนี้จะใช้ทำเครื่องดื่มประเภทต่างๆ รวมถึงมีเค้กพี่หมีตั้งโชว์อยู่ด้วย ลูกค้าสามารถซื้อกลับบ้านแบบ Take away ได้ เหมาะกับคนที่รีบร้อน ต้องเดินทางต่อ หรือว่าซื้อไปฝากญาติมิตรก็เดินเข้ามาโซนนี้เลยจ้า
เมื่อเดินทะลุออกมาจากประตูโซนเครื่องดื่มและของหวานนั้น ก็จะเจอกับมุมเซลฟี่สุดฮอต โดยพี่หมีวิลลี่ น่าร้ากกกก
เมื่อเข้ามาถึงพนักงานก็จะสอบถามว่ามากี่ท่าน ต้องการซื้อกลับบ้าน หรือทานอาหารด้วย จากนั้นพนักงานก็จะพาเราเดินทะลุมิติพี่หมีออกมาเจอกับโซน Outdoor ซึ่งพื้นที่นั้นกว้างขวางมากจริงๆ บ้านหลังใหญ่ด้านหลังนั้นเป็นโซน Indoor เปิดแอร์เย็นฉ่ำ และสำหรับโซน Outdoor ตรงนี้จะเปิดในช่วงเย็น เหมาะกับการนั่งฟังดนตรีสดชิลๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ โดยสามารถนั่งสังสรรค์ได้ถึงเที่ยงคืนกันเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ร้อนเหลือเกิน เราขอตัวแว็บไปด้านในก่อน ฮ่าๆๆ
และโซนนี้เป็นโซนใหม่ของร้าน เป็นห้องคาราโอเกะ ที่ถือว่าดีที่สุดในย่าน ราชพฤกษ์เลยก็ว่าได้ บอกเลยว่า รองรับสูงสุดได้ถึง 25 คน (เดี๋ยวจะมาบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง ด้านล่างเลยจ้า)
Drink bar สำหรับนักดื่มทุกท่าน บอกแล้วว่ามาร้านเดียวจบ! ไม่ต้องไปต่อที่ไหน อิอิ ตรงส่วนนี้จะอยู่บริเวณด้านข้างของบ้านหลังใหญ่
ส่วนตัวปลื้มกับการตกแต่งของร้านมากเลย ใส่ใจทุกรายละเอียด ที่สำคัญ คือ คุณจะได้พบกับพี่หมีทุกพื้นที่จริงๆ ถ้าใครพาหลานมาจะต้องกรี๊ดสลบแน่ๆ ฮ่าๆ
เราเข้ามาด้านในโซน Indoor กันดีกว่า โอ้วววโหววว หมี หมี หมี เห็นหมีหนูไหม? จะน่ารักไปไหน
ด้านในจะเป็นลักษณะปูนเปลือย สลับกับการตกแต่งแบบร่วมสมัย มีโต๊ะที่นั่งให้เลือกหลากหลาย จะมาเดี่ยว มาคู่ ครอบครัว ก็มีให้เลือกนั่งหลายแบบ
เดินข้ามมาอีกฝั่งสวยสะดุดตาไม่แพ้กัน ตกแต่งด้วยโทนสีไม้ ส่วนตัวเราว่ามุมนี้เหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ
มองย้อนกลับไปก็เป็นโซนน้องหมีตัวใหญ่ที่เราพาไปทัวร์มาเมื่อสักครู่นั่นเอง
แต่ยังไม่หมดเท่านี้ เราจะพาไปชั้น 2 ห้องใต้หลังคา เดินต๊อกแต๊กตามขึ้นมาเลยจ้า
ว้าวววว ด้านบนนี้ก็สวยไม่แพ้กัน เป็นห้องใต้หลังคาที่แท้จริง อารมณ์ประมาณชั้นลอยของบ้าน สามารถมองลงไปเห็นชั้นล่างได้ชัดเจน
มุมกระจกมองลงไปจะเป็นโซน Outdoor ด้านบนนี้ค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัว ใครที่จะปิดโซนนี้จัดเลี้ยงก็เป็นไอเดียที่กิ๊บเก๋เหมือนกันนะ
อิ่มหมีพีมันกับผองเพื่อนที่ Villa De Bear ราชพฤกษ์
เดินกันจนเมื่อย เรามาชิมอาหารฝีมือพี่หมีวิลลี่กันเลย ปอเปี๊ยะวิลล่าเดอแบร์ (180 บาท) แค่เห็นก็น่าหม่ำจนน้ำลายไหล ปอเปี๊ยะมี 2 ไส้ คือ ไส้ผักขม และไส้แฮมชีส เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้ม 2 สไตล์ ได้แก่ ซอสมะเขือเทศ และน้ำจิ้มบ๊วย
ปอเปี๊ยะนี่ต้องกินตอนร้อนๆ จะดีมาก แป้งกรอบ ไม่อมน้ำมัน ไส้แฮมชีส ชีสเต็มคำตัดด้วยแฮมชิ้นใหญ่ ส่วนผักโขมก็แน่น จิ้มกับน้ำจิ้มแบบไหน แล้วแต่ชอบเลย ส่วนตัวเราชอบน้ำจิ้มบ๊วยอะ มันออริจันัลดี 5555
ออเดิร์ฟแรกผ่านไปแล้ว เมนูถัดมาเป็น สปาเกตตี้คาโบนาร่า (220 บาท) เสิร์ฟมาแบบเยิ้มๆ ด้านบนเป็นไข่แดง โรยหน้าด้วยชีส และเบคอนบิท
ก่อนกิน แนะนำให้คลุกเคล้าไข่แแดงให้ทั่ว แล้วลงมือฟาดกันเลย! สปีเก็ตต้า สปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่ม รสชาติเข้มข้นหอมมัน รสชาติกลางๆ กำลังดี กินกับเบคอนบิทกรอบๆ เค็มๆ เข้ากันได้ดี พร้อมกับไข่แดงสดๆ ที่ช่วยเสริมความดั้งเดิมของคาโบนาราโดยแท้ เป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ห้ามพลาด
สลัดปูนิ่มทอดกรอบ (280 บาท) ปูนิ่มตัวใหญ่บังผักแทบมิดเลย ฮ่าๆ ผักสดกรอบ ใส่น้ำสลัดมาพอดีๆ ด้านบนปูนิ่มมีโรยไข่กุ้งมาด้วยแฮะ
ก่อนกินก็จัดการคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อน น้ำสลัดออกเปรี้ยวๆ หอมๆ ปูนิ่มกรอบเต็มปากเต็มคำ
ชิมแต่อาหารฟิวชั่นฝรั่งมากัน 3 เมนู มาเจอเมนูไทยๆ กันดีกว่า กับเมนูขายดีอีกหนึ่งเมนู ต้มยำเย็นตาโฟ (290 บาท) เสิร์ฟมาในหม้อไฟท้องเหลืองร้อนฉ่า และมีเกี๊ยวกรอบวางเคียงข้างอยู่ด้วย
สังเกตได้ว่าซีฟู้ดถูกอัดแน่นมาอยู่ในหม้อเดียวมีทั้งหมึก เนื้อปลากะพงชิ้นใหญ่ กุ้งสด และหอยแมลงภู่ พร้อมกับเครื่องเย็นตาโฟครบครัน หม้อนี้ซดน้ำแล้วคล่องคอ จี๊ดจ๊าดมาก รสชาติครบรส เปรี้ยวเผ็ดนำ ตามด้วยเค็มหวานจากเครื่องปรุงสไตล์เย็นตาโฟ หม้อเดียวคุ้มมากๆ เป็นอีกหนึ่ง signature ของวิลล่า เดอ แบร์
ยำถั่วพลูกุ้งสด (180 บาท) เมนูกินเล่นเปิดมื้ออาหาร สำหรับการเรียกน้ำย่อยได้ดี เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูมเยิ้ม ๆ และกุ้งสดตัวใหญ่ ๆ
รสชาติของยำถั่วพลูนั้น จะมีความหวานนำ และเผ็ดอ่อน ๆ ของพริกเผา มีความกรุบ ๆ และกุ้งสดเนื้อแน่นตัวใหญ่ พร้อมกับไข่ต้มยางมะตอย เข้ากันได้ดี
กุ้งอบวุ้นเส้น (350 บาท) เมนูไทย ๆ ที่ร้านอาหารสไตล์ฮอล์แลนด์ ก็ทำออกมาได้ดี กุ้งตัวใหญ่ ๆ ประมาณ 5 ตัว เสิร์ฟมาแบบร้อน ๆ หอม ๆ ในรูปแบบหม้อดินเผา
วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม เสิร์ฟร้อนหอมมาก ๆ มีความครบเครื่องแบบไทย ๆ หอมเครื่องเทศดีอยู่ กินพร้อมกับกุ้งสดตัวใหญ่ ๆ แล้วเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ
ทะเลผัดพริกเกลือ (260 บาท) มีความจัดเต็มของกองทัพทะเล ทั้งกุ้ง ปลาหมึก และ เนื้อปลากะพง ที่มีการคั่วกระเทียม และ พริกเกลือ พร้อมกับ ใบกระเพราทอดกรอบ
เนื้อปลากะพงมีความแน่น ไม่คาวเลย กุ้งเนื้อแน่น ๆ และปลาหมึกกรุบ ๆ มีทั้งแบบหั่นแว่น และ หนวดปลาหมึก คั่วพริกเกลือมีความหอม ๆ เค็มอ่อน ๆ แซมด้วยความเผ็ดอ่อน ๆ ทุกอย่างลงตัวเข้ากันได้ดีมาก ๆ
ปูผัดพริกขี้หนูสด (500 บาท) เมนูเด็ดที่อยากแนะนำเลย เนื้อปู กรรเชียงปู แบบเนื้อแน่น ๆ เต็มปากเต็มคำ พร้อมกับซอสผัดพริกขี้หนู และไข่เค็ม
เนื้อปูสดแน่นจริง ๆ ตัดมาเป็นเนื้อปูล้วน ๆ แกะมาให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ ไม่ต้องนั่งแกะเองเลย มีรสชาติเผ็ด และเค็มอ่อน ๆ ชอบมากเลยทีเดียว
ต้มยำมะพร้าวน้ำหอมทะเล (360 บาท) ยกเอาเครื่องทะเลมาแบบครบเครื่อง เสิร์ฟมาในรูปมะพร้าวน้ำหอม และเนื้อมะพร้าวอ่อนกรุบ ๆ ปรุงรสด้วยเครื่องสมุนไพร และ น้ำมะพร้าว
ทะเลจัดเต็มจริง ๆ เมนูนี้ มีทั้งกุ้งแม่น้ำ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และ ปลาหมึกหั่นแว่น บอกเลยว่าเครื่องทะเลเหล่านี้สดมาก ๆ กุ้งเนื้อแน่น หอยตัวใหญ่ และปลาหมึกกรุบ ๆ รสชาติแบบหอม ๆ มะพร้าว และ กะทิ แบบไทย ๆ ไม่เผ็ดมากเท่าไหร่ เข้มข้นในรสต้มยำและมะพร้าวดีเลยล่ะ
ของหวานน่ารัก & เครื่องดื่มน่าดริ๊ง ที่ Villa De Bear
อีกอย่างที่เด่นเลยก็คือ ของหวานจำพวกขนมเค้ก และ เครื่องดื่ม บอกเลยว่ามีเอกลักษณ์ และน่ารักตะมุตะมิมากเลยทีเดียว
อิ่มอร่อยกันพอหรือยัง? เชื่อว่าคนที่มา Villa De Bear จะต้องไม่พลาดของหวานของที่นี่ เพราะขึ้นชื่อเรื่องความน่ารัก น่าทานมากๆ Chocolate Mousse Bear 130 บาท) เป็นมูสเค้กพี่หมี น่ารักมากกก ไม่กล้ากินเลยอะ 55555
อ๊ากกก โดนตักปากออกไปแล้ววว เนื้อมูสนั้นหอมอร่อยมาก ผิวมูสด้านนอกออกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อมูสเป็นช็อกโกแลตเข้มข้นแบบสุดๆ และมีสอดไส้สตรอว์เบอร์รี่เสริมความเปรี้ยวเข้ามา หลงรักเลยมูสชิ้นนี้
Toro mouse (130 บาท) เค้กน้องหมี Tubie ที่เป็นเค้กเผือกหอม ๆ มีความนุ่มมาก อร่อยมาก ๆ เลย ขนาดเป็นคนไม่ค่อยชอบกินเผือก ยังรู้สึกว่าหอม และอร่อยนุ่มดีเลย
Litter Strawberry (150 บาท) มีความเค้กมูส นุ่ม ๆ หอม ๆ ในรสของสตรอเบอร์รี่ สายหวานเป็นต้องปลื้ม
Yuzu Mouse (170 บาท) มูสเค้กรสส้มยูซุ ที่มีความเปรี้ยวโดด ๆ เค้กหอมนุ่ม ใครสายเปรี้ยวห้ามพลาด
ของหวานอีกอย่างหนึ่งเป็น Fantasy BBQ Toast Dip (250 บาท) เป็นการนำเอาฮันนี่โทสต์ มาเสียบไม้ในสไตล์ BBQ ราวกับว่าเรากำลังปิ้งย่าง เสริมด้วยผลไม้สด สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และพีช เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวนิลลาโฮมเมด มีซอส Dip ช็อกโกแลต และครีมสตรอว์เบอร์รี่แยกมาให้เราราดตัวโทสต์
ราดลงไปให้ชุ่มฉ่ำหัวใจแบบนี้เลย เป็นเมนูที่สร้างสรรค์ออกมาได้ค่อนข้างดี ทำให้เรารู้สึกสนุกสนานไปกับลูกเล่นในเมนูนี้ ใครชอบซอส Dip แบบไหนก็เลือกันได้ตามใจเลย ส่วนเราจะกินแล้วน้าาาา
อ้ามมมมม ขนมปังเป็นแบบกรุบกรอบ กินคู่กับ Dip ซอส และไอศกรีมวนิลลาเข้ากันมากๆ ตัวซอสถ้าเป็นสตรอว์เบอร์รี่จะออกหวานเปรี้ยว ส่วนช็อกโกแลตให้ความขมและเข้มข้นตามสไตล์โกโก้นั่นเอง
มาในส่วนของเครื่องดื่มกันบ้าง ขอแนะนำ BBQ Punch (130 บาท) เป็นน้ำผลไม้ ซิตรัส (ตระกลูมะนาว) แครนเบอรี่ ส้ม และ สตอรเบอรี่ไซรัป ที่มิกซ์กัน โดยมีรสเปรี้ยว ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ ผลไม้สด อย่างส้ม สตอรเบอรี่ และมะนาว เสียบไม้เป็นแบบบาร์บีคิว ช่วยเพิ่มมิติ ให้กับเมนูนี้
ตามด้วยเมนู Sweet Passion (130 บาท) เป็นเครื่องดื่มชาเขียว ผสมกับเครมบรูเล่เสาวรส น้ำเชื่อม มะนาว พร้อมกับผสมใบโหระพา และ ฮันนี่ พร้อมเชคเข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้มีรสของเสาวรส และกลิ่นโหระพาชัดเจน บวกกับความหวานอ่อน ๆ ช่วยเพิ่มรสชาติ ให้มีความเปรี้ยวอมหวาน พร้อมเสริมด้วยลิ้นจี่
ส่วนเมนูเด่นของที่นี่ คงหนีไม่พ้น Tea Foam (130 บาท) เป็นชามะลิผสมกับน้ำส้มและน้ำมะนาว ดื่มแล้วแก้กระหาย สดชื่นได้ใจ รสกลมกล่อมออกไปทางเปรี้ยวหวาน แทรกด้วยกลิ่นชามะลิหอม ๆ กินคู่กับส้ม อร่อยสดชื่นที่สุดเลย
และขอปิดท้ายด้วย Taro Latte เป็นเครื่องดื่มตัวใหม่ของที่นี่ เป็นกาแฟลาเต้ผสมกับเผือก อันนี้ คือ ลาเต้เป็นกาแฟที่ไม่ค่อยแรงอยู่แล้ว เมื่อผสมรสชาติของเผือกเข้าไป นอกจากสีจะสวยแล้ว ยังเพิ่มกลิ่นหอม และทำให้ดื่มง่ายขึ้นไปอีก
โซนห้องคาราโอเกะของ Villa De Bear
ห้องคาราโอเกะในร้านนี้ จะเหมาะแก่การสังสรรค์ในกลุ่มใหญ่ ๆ เป็นอย่างมาก มีพร้อมทั้งระบบ แสง สี เสียง ที่ครบครัน มีทั้งเพลงไทย เพลงจีน เพลงสากล และมีให้เลือกทั้งหมด 5 ห้อง คือ
Christy Room รองรับสูงสุดได้ถึง 17 คน (ราคาปกติ 1,800 บาท) – ภายในห้องตกแต่งด้วยขนมหวานต่าง ๆ ที่เรียงอยู่บนเพดาน ทำให้ได้บรรยากาศเต็มไปด้วยความหวาน เหมือนอยู่ท่ามกลางห้องทำเบเกอรี่
Kinny Room รองรับสูงสุดได้ถึง 26 คน (ราคาปกติ 2,000 บาท) – เป็นห้องที่ตกแต่งสไตล์เชฟหมีพ่อครัวใหญ่ จำลองบรรยากาศแบบห้องครัวขนาดย่อม มีโซฟาใหญ่ 2 ที่นั่ง พร้อมกับโต๊ะขนาดยาว บรรจุคนได้เยอะมากจริง ๆ บรรยากาศอบอุ่น
Sammy Room รองรับสูงสุดได้ถึง 20 คน (ราคาปกติ 2,000 บาท) – ช่างหมี ผู้ตัดเย็บชุดสร้างสรรค์ ภายในห้องตกแต่งด้วยกระดุมขนาดใหญ่ พร้อมกับจักรเย็บผ้าอันโปรด ร้อยเรียงไปด้วยเส้นด้ายรอบๆห้อง สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้กับมื้อสุดพิเศษ
Tubie Room รองรับสูงสุดได้ถึง 25 คน (ราคาปกติ 2,000 บาท) – เป็นห้องในคอนเซ็ปต์ของ ช่างซ่อมประจำร้าน ที่มาพร้อมกับเครื่องมือประจำตำแหน่งอย่างครบครัน เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน รื้อฟื้นบรรยากาศเก่าๆให้กลับขึ้นมาเป็นความทรงจำใหม่ ที่ต้องเล่าซ้ำๆอีกครั้ง
ขอปิดท้ายด้วยการชื่นชม Service mind ของที่นี่ บอกเลยว่าดีมาก ๆ ตั้งแต่เดินลงจากรถ และเข้าร้าน มีมุมต้อนรับ มุมจอดจักรยานสำหรับสายปั่น บริการร่ม และ รถเข็น และทางลาดให้สำหรับคนสูงอายุ
แม้แต่ในห้องน้ำเอง ก็ยังมีบริการแบบเต็มรูปแบบในห้องน้ำพูดหญิง ที่มีทั้ง น้ำยาบ้วนปาก ผ้าอนามัย และแม้แต่ ที่เปลี่ยนผ้าอ้อมของลูกน้อยอีกด้วย สุดยอด!
Villa De Bear เป็นคาเฟ่น่านั่งสุดชิล พร้อมกับห้องคาราโอเกะ ที่ดีที่สุดในราชพฤกษ์ พบกับโลกของพี่หมีน่ารักๆ คอยต้อนรับอยู่เต็มร้าน บรรยากาศอบอุ่น ร้านกว้างขวาง แบ่งโซนและตกแต่งร้านได้น่ารัก มีจุดขายแบบไม่ซ้ำใคร อาหารรสชาติดี มาร้านเดียวครบทั้งคาวหวาน เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
- 📍 Location: ถนนราชพฤกษ์
- 🚗 Google map: 13.7584732,100.4424894
- ☕ Open hours:
- วันจันทร์ – ศุกร์ 17:00-24:00 น.
- วันเสาร์ – อาทิตย์ 11:00-24:00 น.
- วันหยุดนักขัตฤกษ์ 11:00-24:00 น.
- ☎ Tel: 098-496-6245 (จองโต๊ะ)
- 💰 Price: 200++ บาท
- 💻 Facebook: Villa De Bear
- 📸 IG : villadebear
- 📱 LINE Official: @villadebear (มี@) หรือ http://line.me/ti/p/%40villadebear