สวัสดีหนุ่มสาวมิตรรักแฟนคลับของจะไปกิน วันนี้เจ๊คนเดิม เพิ่มเติมคือความสวย จะมาแนะนำร้านอาหารฝรั่งเศสใจกลางสุขุมวิท นั่นคือร้าน Cocotte Farm Roast & Winery (โคคอต ฟาร์ม โรสต์ แอนด์ ไวน์เนอรี่) โดดเด่นด้วยการนำวัตถุดิบชั้นดีจากโครงการหลวง และจากต่างประเทศมาปรุงรสในแบบฉบับความอร่อยพรีเมี่ยม โดยเฉพาะเนื้อที่เป็นเมนูไฮไลท์ของที่ร้านนี้ ใครสายเนื้อต้องห้ามพลาด MUST TRY!! นอกจากเนื้อแล้วยังมีเมนูเด็ดโดนใจอีกเพียบ
สำหรับร้าน Cocotte จะเน้นในเรื่องของวัตถุดิบ ซึ่งถูกคัดเลือกจากฟาร์มออร์นิคด้วยความพิถีพิถัน แค่นี้ก็ทำให้มั่นใจแล้วล่ะว่ารีวิวนี้เจ๊จะได้กินของดีมีคุณภาพอย่างแน่นอน ฮ่า ๆๆ (แอบอิจฉาเจ๊กันใช่ไหม อิอิ)
โดยรีวิวนี้ จะเป็นการรวมเมนูอาหารทั้งแบบเก่า และแบบใหม่ ที่มีการปรับปรุงสูตร และรูปแบบของอาหาร เพื่อความอร่อยทวีคูณอีกด้วย เลื่อนลงมาดูกันเล้ยยย
บอกเลยว่า ไปกินมาหลายรอบมากกก ๆ แล้วก็นำมาลงรีวิวเรื่อย ๆ แบบนี้ล่ะ ฮ่า ๆ
และนี่ถือเป็นครั้งที่ 4 สำหรับการมากินร้าน Cocotte นี้
นี่คืออาหารทั้งหมดที่จะชิมในวันนี้ เห็นแล้วน้ำลายสอกันเลยใช่ไหมล่ะ แล้วอย่าลืมคลิกชมคลิปวีดีโอด้านบนดูกันด้วยน้า (กด HD ด้วยจะได้น่ากินทะลุจอไปเลย)
Fresh Juice ‘’Aiain Milliat’’
จุดเด่นของร้านโคคอท นอกจากวัตถุดิบสดใหม่ที่ตัดสรรมาจากฟาร์มคุณภาพดีแล้ว เมนูที่นี่ยังมีการหมุนเวียนกันไปทุก 2 เดือนอีกด้วย รับรองว่าเราจะได้พบเมนูใหม่ ๆ ไม่จำเจ (อัพเดทล่าสุด 11 ตุลาคม 2017)
เริ่มจากน้ำผลไม้สด Alain Milliat 180 baht (price per glass) นำเข้าจากฝรั่งเศสมีด้วยกัน 3 รส จากซ้ายเป็น Strawberrry Nectar, Apricot Nectar และ Yellow Peach Nectar ราคาแก้วละ 180 บาทเท่ากัน บอกเลยว่าใครรักน้ำผลไม้สด ๆ ต้องลอง เปรี้ยวหอมสดชื่นในแบบที่เจ๊ก็ยังไม่เคยดื่มรสชาติแบบนี้มาก่อน ดีมาก ๆ เลย
Small Bites
Bone Marrow & Truffle Mustard – เมนูเป็นเมนูแปลกใหม่ ที่หากินได้ค่อนข้างยากในบ้านเรา เพราะเป็นเมนูที่ทำมาจาก “ไขกระดูกวัวอบ” ซึ่งทำให้อร่อยค่อนข้างยาก เสิร์ฟมาพร้อมกับ ขนมปังกรอบ และ ทรัฟเฟิล มัสตาร์ด
รสชาติของเมนูนี้ ค่อนไปทางเค็มของเกลือ มีความหอม ๆ มัน ๆ ด้วยตัวของไขกระดูกเอง มีความเหลวนิด ๆ ให้กินคู่กับหอม และ ทรัฟเฟิล มัสตาร์ด ที่มีความเปรี้ยวอ่อน ๆ และเผ็ดนิด ๆ กินพร้อมกับ ขนมปังกรอบ ๆ อื้อหือออ แปลกและอร่อยถูกปากจริง ๆ
เมนู starter ทีดีงามจานนี้เรียกว่า Small Bites Croquetas X ChorIzo (240 baht) เป็นของกินเล่นก่อนที่จะเริ่มอาหารจานหลักอย่างจริงจัง ทอดมาเหลืองกรอบน่าทานมากเลย
ด้านในจะเป็นแฮม IberIco และเสริมรสชาติความ creamy หอมหวานเปรี้ยวด้วย black olives mayo กัดคนละชิ้น แปป ๆ หมดจาน!
ต่อด้วยเมนูเด็ดอย่างเป็ด ที่เป็นตัวชูโรง ชั้นดี Small Bites Crispy Duck with soy-honey (280 baht) เสิร์ฟมาชิ้นกลาง ๆ กินง่าย
หั่นครึ่งออกมา จะเห็นเป็นเนื้อเป็ดบดละเอียด หมักกับซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน รสชาติจะหอม ๆ หวาน ๆ สไตล์น้ำผึ้ง ให้รสเค็ม หวาน สไตล์ถูกปากคนไทย อันนี้กินง่าย อร่อยด้วย
Fresh Delicious Food from Farms
วัถดุดิบสดใหม่ กลายมาเป็นเมนูเด็ดที่ Cocotte
รายการอาหารที่ร้านโคคอตมีด้วยกันหลากหลายประเภท เช่น เมนูทานเล่น สลัด เมนูย่าง สเต็ก เบอร์เกอร์ หรืออาหารทะเล เป็นต้น มาร้านนี้ใครอยากชิมวัตถุดิบแบบไหน สอบถามพนักงานได้เลยจ้า บริการเยี่ยม ให้ข้อมูลได้เป็นอย่างดี (ดูเมนูของร้าน Cocotte ทั้งหมดได้ด้านล่าง)
Burrata Parma – ชีสสดสไตล์อิตาลีแท้ ๆ ที่ทำจากนมวัว โดยชีสชนิดนี้ จะมีครีมอยู่ข้างใน เสิร์ฟมาพร้อมกับ พาร์มาแฮม และสลัดผัก
เมนูนี้จะมีรสชาติหวานหอมของชีส และมีความเค็มอ่อน ๆ ของพราม่าแฮม ตัดด้วยมะเขือเทศ ที่มีรสเปรี้ยวอ่อน ๆ ทั้งหมดนี้กลกมกล่อม เข้ากับชีสได้ดีทีเดียว
หนักกันไปทางเนื้อแล้ว ต่อกันด้วย Gourmet Salad (310 baht) ผักสดจากโครงการหลวงโรยหน้าด้วยไก่อบ มะเขือเทศ ไข่ต้ม และเบคอน
สลัดหอม ๆ กลิ่นชีสโดดเด่น ผักทุกอย่างสดมากกก ฉ่ำ ไม่ขม
เริ่มกันด้วยเมนู starter ที่จะช่วยเรียกน้ำย่อยในกระเพาะของเจ๊ออกมาทำงานกัน 100% Vegan (360 baht) เมนูนี้แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นมังสวิรัติ เหมาะกับสายเฮลตี้อย่างแท้จริง ที่สำคัญคือใช้ผักจากฟาร์มโครงการหลวง ทำให้มั่นใจได้ว่าสด และปลอดภัยหายห่วง
รสชาติหอมกลิ่นเครื่องเทศ truffle mousse นุ่มเข้ากับผักสดได้ดีทีเดียว แถมยังเสริมรสด้วยน้ำสลัดทรัฟเฟิล และมีขนมปังกรุบกรอบให้เคี้ยว โดยรวมแล้วอร่อยแบบถูกปากคนไทย (เจ๊แอบปลื้มเมนูนี้อะ กินง่ายดี >_<)
จานต่อมา Cocotte Salad 2.0 (320 baht) สลัดเวอร์ชั่น 2.0 ที่อัพเกรดขึ้นมา มีผักหลากหลายชนิด เหมาะกับสายเฮลตี้ แน่นอนว่าที่นี่ใช้ผักปลอดสารพิษจากโครงการหลวง ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย และสดใหม่จากฟาร์ม
ผักก็ประกอบไปด้วยหลายชนิด ได้แก่ butterhead lettuce & rocket, bell pepper confit, cherry tomatoes & almond pesto และด้านบนเป็น parma ham อายุ 18 เดือน เพิ่มความหอมมัน เข้ากับสลัดได้ดีทีเดียว!
Italian Salad (330 baht) Rocket salad, grilled Italian sausage, balsamic caramel, burrata, & grilled asparagus
Seabass Nikkei “Shaker” (480 baht) – ปลากะพงหั่นเต๋า คล้ายกับเวลาเราทานซาซิมิ ใส่ซอสสูตรพิเศษ หัวหอม แครอท น้ำเลมอน แล้วนำไป shaker เหมือนตอนเราสั่งม็อกเทล หรือค็อกเทล
เป็นเมนูที่ครีเอทมาก กินแล้วรู้สึกเฟรชตื่นตัวขึ้นมาทันที
The Truffle Cocotte Camembert (590 baht) เสิร์ฟมาแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบก็จะมี Kamado Hoe BBQ และ truffle เป็นจุดเด่นของเมนูนี้
ก็จะมี Kamado Hoe BBQ และ truffle เป็นจุดเด่นของเมนูนี้ ชีสเข้มข้นมาก ๆ รสชาติสไตล์ฝรั่งเศสจ๋าเรียกพี่
จะกินเล่น ๆ หรือจะนำมาทาเป็นแยมกับ chargrilled bread ก็เก๋ไก๋ไม่แพ้กัน
Main dishes
เปิดเมนูจานหลักอันโดดเด่นของร้าน Cocotte ที่อยากจะแนะนำหลายเมนู โดยเริ่มจากเมนูที่มีการเสิร์ฟแบบน่าตื่นเต้นเร้าใจเป็นที่สุด มีการเสิร์ฟ มันบดผสมชีสที่โต๊ะพร้อมเมนูจานหลัก อย่างที่จะเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้
Truffle & Parmesan Sausage / Cheesy Mash เมนูน้องใหม่ เสิร์ฟมาในรูปแบบไส้กรอกรมควัน คล้าย ๆ ไส้อั่ว เสิร์ฟพร้อมกับ หน่อไม้ฝรั่ง และซอสสูตรเฉพาะของ cocotte
มีความหอมของทรัฟเฟิลโดดเด่นมาก
Scallops “Tom Yum” Risotto (920THB) – เม็ดข้าวมีความแน่น เหมาะมากสำหรับการนำมาทำ ริซอตโต้ เพราะให้เม็ดข้าวยังคงสวย และดูดซับน้ำซุปรสต้มยำ เข้าไปในตัวได้ดีเยี่ยม มาพร้อมกับหอยเชลล์ตัวใหญ่ เมนูอิตาเลี่ยนที่ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างดีเลยทีเดียว
เป็นเมนูข้าวริซอตโต้ที่มีรสต้มยำอ่อน ๆ เมนูที่ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว โดยที่หอยเชลล์นั้น เค้าจะนำเอาไปทอดก่อน เพื่อให้มีความกรอบนิด ๆ แต่ก็ยังคงความสด เด้งดึ๋ง เนื้อนุ่มละมุน
Wagyu Beef Wellington (1690 baht) – เมนูเนื้อวากิว ที่ห่อด้วยแป้งพาย เนื้อวากิว medium rare ภายในเป็นซอสเห็ดกับแฮม ซ่อนอยู่ข้างใน เสิร์ฟมาพร้อมกับมันบด และซอสเกรวี่สูตรพิเศษ
เวลาจะกินแล้ว ให้ราดซอสเกรวี่ มีความหอม ๆ มัน ๆ ลงบนเนื้อวากิว ที่มีความฉ่ำหอม บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ติดใจมาก อร่อยมาก
บอกเลยว่า หอยทาก ที่นี่ หากินยากมากในบ้านเรา ต้องนำเข้ามาขายกันเลยทีเดียว แล้วร้านอาหารทั่วไปจะไม่นิยมนำมาประกอบอาหาร เพราะเนื่องจากมีราคาที่สูงมาก ๆ
French Snails 790 baht หอยทากฝรั่งเศส ตัวใหญ่ไซส์พิเศษ ส่งตรงมาจากแดนไกล ผัดกับซอสเนยกระเทียม สูตรอิตาเลียน กลิ่นนี่หอมมาแต่ไกลเสิร์ฟพร้อมกับไข่ยางมะตูมเยิ้ม ๆ เข้ากันดีเป็นที่สุดดด
หอยทากชิ้นกำลังดี พอดีคำ ไม่เหม็น ไม่คาว เนื้อหนับหนับ คล้ายกินเห็ดมาก ๆ รสชาติของเมนูนี้ จะกินง่ายหน่อย กลมกล่อมแบบไทยนิด ๆ ใครที่ไม่ชอบแนวอิตาเลี่ยน ลองเมนูนี้ รับรองไม่ผิดหวัง
The Tartare “AU Couteau” 690 baht Angus beef tartare, capers, gherkins, pickled onions & creamy egg yolk, served with French fries
Signature dishes of Cocotte
มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์เมนูขายดีตลอดการของร้าน Cocotte สุขุมวิท 39 นั่นก็คือ ไก่อบฟาง
Baby ChIcken (900Gr) 790 baht – มนูขวัญใจมหาชนจากการโหวตของแขกที่มาทาน (รวมถึงเจ๊ด้วย ชอบมาก ๆ) ทางร้านใช้ไก่ จากโครงการหลวง เนื้อแน่น และนุ่มโคตร!! หนังกรอบนิด ๆ คัดแต่ไก่วัยสาว สวย เอ๊าะ ๆ อายุไม่เกิน 150 วัน น้ำจิ้มแจ่วก็แซ่บเวอร์
Half Farmer Chicken (350 GR – 490฿)
ไก่สาวตัวเล็ก แต่เนื้อแน่น และมีความนุ่มดีเหลือเกิน กินเปล่า ๆ ยังอร่อยเด็ด แนะนำว่าใครมาร้านนี้ควรลอง หรือจะสั่งแบบครึ่งตัวก็ได้เหมือนกันนะ Signature dish ไก่บ้านสาว มันน้อยเนื้อแน่น (เหมือนเจ๊เด๊ะ ๆ) คัดสรรจากฟาร์มไก่คุณภาพดี และเราสามารถเลือกซอสที่จะทานได้ว่าชอบแบบไหน ในภาพสีส้มจะเป็นซอส homemade Sriracha chili sauce ส่วนครีมสีเหลืองเป็น béarnaise ซอสสไตล์ฝรั่งเศส
บอกเลยว่าไก่เนื้อแน่นมากจริง ๆ แน่นแต่นุ่ม!! หนังด้านนอกกรอบร่อน กินกับซอสตัวไหนก็อร่อยเหมือนกัน แต่ถ้าให้เจ๊แนะนำ กินเปล่า ๆ เด็ดที่สุด คือ เราจะได้รสสัมผัสของเนื้อไก่แบบจริงจัง สมแล้วที่ทางร้านยกให้เป็นเมนูที่ขายดีที่สุด!
GRILL – BEEF
โรยเกลือและเครื่องเทศลงบนเนื้อแบบนี้ ไม่ใช่เมนูอื่นใดนอกจากสเต็กเนื้อ อีกหนึ่งทีเด็ดที่ทำเอาฝรั่งและคนไทยติดอกติดใจ ถ้าใครเดินเข้าร้านช่วงกลางวัน จะเห็นแขกชาวต่างชาติสั่งเมนูเนื้อกันเยอะมว๊ากกก บางโต๊ะก็ 1 จานต่อ 1 คนเลยทีเดียว
หลายคนอาจรู้จักร้าน โคคอท จากเมนูเนื้อ ๆ รีวิวนี้เราก็มีมาให้น้ำลายไหลกัน ด้านบนเป็นเนื้อ Ribeye Black Angus ย่างกันสดใหม่ตามออเดอร์ ใครสนใจดูวิธีย่างเนื้อก็สามารถเดินไปชมขั้นตอนการปรุงได้เลย ซึ่งที่นี่เป็นลักษณะครัวเปิด แบบว่าหอมเนื้อจนต้องตามไปดูกันเลยทีเดียว ฮ่า ๆ
Ribeye Black Angus 300Gr Or 500Gr 1390/2260 baht (Australian Black Angus Bee – เนื้อระดับพรีเมี่ยม เลือกได้ว่าต้องการสุกระดับไหน ของเจ๊เลือกเป็น medium rare จะได้รู้รสสัมผัสกันไปเล้ยว่าเด็ดแค่ไหนเชียว
เธอ ๆ ดูเนื้อสีชมพูนั่นสิ แดงฉ่ำน่ากินระดับสิบ!
สำหรับซอสนั้นเราสามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นรสชาติไหน มีทั้งซอสบาร์บีคิว ซอสพริกศรีราชาโฮมเมด, Blue Cheese หรือจะเป็น Garlic & Herbs Butter
หรือ จะลองเนื้อในรูปแบบเบา ๆ ที่แน่นอนว่าเราสามารถเลือกระดับความสุกได้ วันนี้เจ๊ขอแรร์ ๆ หน่อย เลยจัด medium rare มาเลยจ้า
OMG!! หยุดนิ่งไป 5 วินาที ขอต้อนรับ Hanger Steak Wagyu (260 GR, marbling score 6) 1,320 baht โอ้ยยย เจอแบบนี้ยกธงขาว ยอมแพ้เลย ฮ่า ๆๆ เป็นเนื้อวากิวสัญชาติออสเตรเลีย และได้คะแนน marbling score ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการกำหนดเกณฑ์คุณภาพของเนื้อ โดยแบ่งตามไขมันที่แทรกซึมอยู่ในเนื้อ
พูดแบบบ้าน ๆ คือ ลายไขมันสวย รสชาติก็จะดีด้วย ดูอย่างจานของเจ๊สิ ด้านนอกเกรียมนิด ๆ ด้านในแดงฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมซอสที่เราสามารถเลือกได้ตามใจชอบ
ซูมเข้าไปอีก เอาให้ทะลุจอกันไปเลย ถ้าใครได้ดูวีดีโอด้านบนนะ จะเห็นได้ว่าเนื้อมันนุ่มแต่มีความเด้งดึ๋ง
รสชาติเนื้อนั้นด้านในมีความฉ่ำ นุ่ม มีจังหวะให้เคี้ยวนิด ๆ โดยเฉพาะด้านในที่ย่างมาแบบ medium rare คือดีมากจริง ๆ ยอมเลย
เอาล่ะ เรามาว่าต่อกันด้วยเรื่องรสชาติของซอส เริ่มจากจิ้มแจ่ว เปรี้ยว หวาน สไตล์ไทย ๆ ไม่เผ็ดเท่าไหร่ เข้ากันได้ดี
ซอส béarnaise เปรี้ยวหอม เป็นซอสที่มีกลิ่นและรสชาติเอกลักษณ์ เจ๊ชอบนะ กินกับเนื้อแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่กลบรสชาติของเนื้อ กลับกันทำให้อร่อยเพิ่มมากขึ้นด้วย
ปิดท้ายด้วยซอส homemade Sriracha chili sauce หรือซอสพริกศรีราชาโฮมเมดนั่นล่ะ หอม ๆ ข้น ๆ กลิ่นพริกแตกต่างจากซอสพริกทั่วไปที่เคยชิมมาก่อน
*หมายเหตุ – ซอสไม่ได้มีในเซต เราสามารถสั่งได้ว่าจะเอาซอสอะไร ถ้าเอาเพิ่มก็จ่ายเพิ่มถ้วยละ 20 บาท
Delicatessen : Cold Cuts
Farmer Board (920 baht) ในเมนูนี้ที่เชฟเลือกมาให้นั้น จะประกอบไปด้วย ชีส 3 ชนิด ที่ต่างรสชาติกันไป แต่ล้วนแล้วมีความหอมมันในตัว กินง่าย และกลิ่นไม่แรง ได้แก่ Old mimolette cheese, Brie de moaux cheese และ Cheddar fermier cheese แน่นอนว่านอกจากชีสนั้น ก็จะมี cold cuts อีก 3 ชนิด นั่นก็คือ Coppa italy, Serano ham spain และ Truffle salami
Cold cut & Cheese Selection of 5 items (790 baht) และอย่างถาดนี้นั้น ก็จะประกอบไปด้วยชีส 2 ชนิด คือ Manchego and Truffle Gouda ส่วน cold cuts จะมีทั้งหมด 3 ชนิด คือ Chorizo, Truffle Salami and Coppa
Awesome Dessert!
Sticky Toffee Cookie (320 baht) Half baked cookies, salted butter caramel & Tahiti vanilla ice cream
หอมคาราเมลมากกกกกก คุ้กกี้มีความหอม ร้อน ๆ บวกกับความหวานของคาราเมล และความมันของแมคาเดเมีย ซึ่งตบท้ายด้วยความเย็นชุ่มฉ่ำของ ไอศกรีมวนิลลา คือที่สุดของที่สุดความอร่อย ชอบมาก ๆ
Grand CRU Valrhona Chocolate (420 baht) Albinoa 85% Powerful and tannic. Alpoco 66% Flowerful and woody. Jivara 40% Creamy and Chocolatey.
เสิร์ฟมาแบบเย็น ๆ มีความช็อคโกแลตสูงมาก มีความเข้มข้น และขมอ่อน ๆ ให้ความรู้สึกถึงช็อคโกแลตทุกอนู หอมอร่อยมาก ๆ ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เพราะมีความขมอ่อน ๆ เข้ามาตัดเลี่ยนได้ดี
กินคาวแล้วจะไม่กินหวานได้อย่างไร เมนูของหวานที่นี่ก็จะสลับเปลี่ยนกันไป มีเมนูใหม่ว้าว ๆ มาให้เจ๊ประทับใจได้ตลอดเวลา เมนูแรกเป็น (Red Velvet 320 baht) เป็นมูสครีมชีส สีแดงเป็น raspberry sorbet เสริมด้วยเค้กชาเขียวนุ่ม ๆ สีสันจ๊ดจ๊าดโดนใจ เห็นแล้วนึกถึงเทศกาลคริสต์มาสเลย อิอิ
เนื้อแป้งเค้กนุ่ม ๆ ฟู ๆ หอมชาเขียวตัดกับความเปรี้ยวหวานของ raspberry sorbet กินแล้วเข้าดันได้ดี หอมเปรี้ยว เรียกความสดชื่นให้กับร่างกายได้ดี เสิร์ฟพร้อมกับเยลลี่ และชาเขียว เสิร์ฟรูปแบบคล้ายสวนน่ารัก ๆ
Paris-Brest Classic french dessert (340 baht) แป้งชูครีมพร้อมกับถั่วเฮเซลนัท กลิ่นหอมฟุ้งตั้งแต่ตอนมาเสิร์ฟ ตรงกลางจะเป็นครีมฮาเซลนัท ตกแต่งด้วยถั่วฮาเซลนัทรอบ ๆ
แป้งชูครีมกรอบนอกนุ่มใน ตัวครีมให้ความรู้สึกเหมืินกินเฟอเรโร่ รอชเชอร์ โรยฮาเซลนัทมาเต็มเหนี่ยว จัดเต็มมาก ครีมนี่ทะลักเลย ฮ่า ๆ หอม หวานนิด ๆ อร่อยมากกก
เป็นอีกหนึ่งเมนูของหวานที่อยากแนะนำเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ Apple & Yuzu Tart (340 baht)
รสชาติออกเปรี้ยวอมหวาน เปรี้ยวเย็นแบบสดชื่น เหมือนกินไอศกรีมรสเปรี้ยวกำลังดี ที่มีรสหวานหน่อย ๆ แอปเปิ้ลสดฉ่ำ ติดใจเป็นอย่างมาก ไม่เคยกินขนมรสชาติแปลกแต่อร่อยแบบนี้มาก่อน แพงแค่ไหนก็ยอมจ่าย แต่นาน ๆ กินทีเนาะ 55555
สบาย ๆ สไตล์โมเดิร์น เหมือนอยู่ในฟาร์ม
ในส่วนของการเดินทางนั้น พิกัดร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 สามารถเข้าได้ทั้งจากถนนสุขุวิท 39 หรือว่าจากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ก็ได้เช่นกัน มีที่จอดรถสะดวกสบาย (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
ส่วนใครที่เดินทางด้วยรถสาธารณะให้ลง BTS พร้อมพงษ์ ลงพร้อมเธอ จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาประมาณ 1 กิโลเมตรก็ถึงร้านแล้วจ้า
บรรยากาศร้าน Cocotte ถูกออกแบบมาให้อยู่ในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับความลูกทุ่ง ๆ มันก็จะคันทรี ๆ หน่อย เดินเข้าไปแล้วรู้สึกสบาย ๆ ชิค ๆ ไม่ดูหรูหราจนเกินไป และที่เห็นทางด้านขวามือเป็นครัวเปิดที่จะได้เห็นเชฟปรุงอาหารกันสด ๆ ต่อหน้าเลย
ส่วนด้านนี้เป็นโซน cold cuts และชีสแบบต่าง ๆ เอาไว้จิบกับไวน์ ตกแต่งด้วยกระเบื้องขาว ให้ความรู้สึกเหมือนเราไปเดินซื้อวัตถุดิบในตลาดฝั่งยุโรป (เจ๊ก็ไม่เคยไปหรอกนะ แค่เห็นในรูปมา 55555)
โต๊ะที่นั่งมีหลากหลายมุมให้เลือก มาเดี่ยว คู่ เพื่อนฝูง หรือคุยธุรกิจก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบ เจ๊ปลื้มการจัดวางและเล่นสีเฟอร์นิเจอร์ของร้านนี้ ให้อารมณ์คลาสสิคแบบวินเทจ ๆ แต่ก็ผสมผสานความโมเดิร์นหรูนิด ๆ เอาไว้ด้วย
มาเป็นกลุ่มเพื่อน หรือครอบครัวต้องนั่งโซนนี้เลย โซฟาเอนหลังได้สบาย ๆ
หรือจะเป็นโต๊ะยกสูงแบบนี้ ติดกับกระจกบานใหญ่หน้าร้าน มีแสงธรรมชาติเข้ามา รับรองว่าถ่ายรูปอาหารออกมาสวยวิ้งแน่นอน แต่คนตัวเตี้ยอย่างเจ๊นี่ต้องปีนขึ้นกันเลยทีเดียว ฮ่า ๆ
Cocotte ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส รสชาติถูกปากคนไทย ใช้วัตดุดิบชั้นยอดจากฟาร์มคุณภาพดี บรรยากาศน่านั่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฟาร์ม ห้ามพลาดไก่อบฟาง & สเต็กเนื้อพรีเมี่ยม เด็ดอย่างที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน!!
- 📍Location: โครงการ Boulevard ซอยสุขุมวิท 39
- 🚗Google map: 13.7374603,100.5679045
- ☕Open hours: เปิดทุกวัน วันละ 2 ช่วง คือ ช่วงเช้า 11:00-15:00 น. และช่วงเย็น 18:00-00:00 น. สำหรับวันธรรมดาครัวจะปิด 22:30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ครัวจะปิดเวลา 23:00 น.
- ☎Tel: 092-664-6777
- 💰Price: 500-1,000 บาท
- 💻Facebook: cocottebkk
- 📱Twitter: cocottebkk
- 📱IG: cocottebkk
- 💻Website: http://www.cocotte-bangkok.com/ หรืออีเมล์ contact@cocotte-bangkok.com
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีร้านอาหารฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน นี่น่าสนใจ และน่าลองอีก 2 ร้าน นั่นก็คือ ร้าน Mozza by Cocotte โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ที่ Emquartier และ ร้าน Pesca Mar Terra and Bistro ตั้งอยู่ที่เอกมัย 🙂