มาต่อกันเลยจากตอนที่แล้ว หลังจากที่ออกมาจากปราสาทคุมาโมโตะแล้วนั้น อิฉันและพรรคพวกก็รีบจ้ำ ๆ ออกมาขึ้นรถราง เพื่อที่จะไปตามติ่ง “คุมะมง” กันที่ออฟฟิศของนาง นั่นก็คือ Kumamon Square นั่นเองงง และดูจากเวลาแล้ว ก็ใกล้เวลาที่จะเริ่มโชว์แล้ว ทันไม่ทันยังไงก็ต้องเสี่ยง มาถึงขั้นนี้ละ เป็นไปเป็นกัน!!

• เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางไปคิวชู
• คิวชูฤดูหนาว สวัสดี…ฟุกุโอกะ
• เยี่ยมชมปราสาท คุมาโมโตะ – Day 1 (Part 1)
• Kumamon Square และถนนสายชอปปิ้ง (คุณอยู่ที่นี่)  – Day 1 (Part 2)
• เที่ยวเบบปุ กับประสบการณ์ที่หนาวสุดในชีวิต – Day 2
• ชมบ่อน้ำพุร้อนเมืองเบบปุ ยาวไปไกลถึงยูฟูอิน – Day 3
• ยูฟูอิน เมืองประทับใจ เที่ยวหนึ่งวันก็ไม่หนำใจ – Day 4
• นางาซากิ เมืองแห่งสงครามแต่งดงามฉบับนิยาย – Day 5
• ฮากาตะวันสุดท้าย ช็อปปิ้งให้ตายก็ยังไม่พอ – Day 6
• แชร์ประสบการณ์นอนร้านเน็ตที่ญี่ปุ่น

มาสคอตชั้นดี มาทั้งทีต้องแวะมาเจอ!

ใช่แล้วค่ะ เราเดินออกมาขึ้นรถรางกันที่สถานีเดิมกับขามา และไม่นาน สายที่เรารอก็มาถึงแล้ว ถ้าจากหน้าปราสาท สายที่เราจะไปนั้น จะต้องเป็นรถรางขบวน A ที่ด้านหน้าจะเขียนว่า Kengunmachi จะเป็นทางที่พาเราไป Kumamon Square โดยเราต้องลงสถานี Suidocho จากปราสาท มาถึงสถานีนี้ ก็ประมาณ 5 นาที แค่นั้นเอง

ซึ่งออฟฟิศของเจ้าคุมะมงเนี่ย จะอยู่ในตึก Tsuruya Department Store ชั้นใต้ดิน เป็นเหมือนห้างฯ ขนาดย่อม (สถานี Suidocho จะอยู่ตรงข้ามกับตึกนี้เลย)

ตอนที่เราไปถึง ก็ยังงง ๆ  เลยเดินไปถามพนักงานที่น่ารักคนนี้

“เอ่ออ … ไอจะไป Kumamon Square อะกะ”

“อ๋ออ … ตรงไปทางนั้น ตรงไปทางนี้ ตรงไปอีกที ตรงไปพร้อมๆกัน” เย้ย !! (ตลกหรอ?)

พนักงานผู้น่ารักคนนั้น คงจะเห็นหน้าตาอันเอ๋อเหรอของพวกเรา จึงผายมือมาชี้ตัวเอง

“เดี๋ยวฉันพาไปเองนะก๊ะ เดินตามมาได้เลยกะ”

โอ้โห บอกเลยว่า น่ารักมากก ทั้งหน้าตาและนิสัย คือตอนแรกคิดว่าจะมาส่งแค่ประตูทางเชื่อม แต่ที่ไหนได้ พามาส่งถึงหน้าออฟฟิศ !! เดินกันมาเกือบ 5 นาที แล้วเค้ายังต้องเดินกลับไปอีก ซึ้งใจ sevice mind ของคนญี่ปุ่นคูณสองไปอี๊กกกกกกก

แท๊แด!! มาถึงแล้วจนได้!! ถ้าหากใครต้องการจะมาตามหาคุมะมงตัวเป็น ๆ แล้วล่ะก็ ต้องเข้าไปเช็ควันเวลาที่เว็บไซต์ของ Kumamon Square ก่อนนะ มาแล้วจะไม่เสียเที่ยว ซึ่งปกติ ก็จะมีรอบประมาณ 11:00 หรือ 15:00 ซึ่งแน่นอนว่า … มาไม่ทันนนนนนนโว้ยยยย เสียใจจจ ฮืออออ นางกลับไปแล้ววว TT แต่ไม่เป็นไร เก็บบรรยากาศอื่น ๆ ก็ได้

ห้องทำงานของ คุมะมง สามารถเข้าไปนั่งถ่ายรูปได้ตามสบายเลยจ้า

หน้าห้องก็จะมีตู้ไปรษณีย์ เอาไว้ให้ส่งจดหมายบอกรักเจ้ามงได้อีกด้วยย

ใครที่มาแล้ว พลาดไมได้กับมุมนี้เลย ประทับตรา บอกให้เพื่อนรู้ ว่าตูมาแล้วววโว้ยย

Kumamon Cafe

ภายใน Kumamon Square นั้นจะมีร้านขายเครื่องดื่ม และ ไอติม พร้อมกับ มุมสำหรับนั่งชิวเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ ห้องทำงานของ คุมะมง เลยจ้า

ซึ่งเมนูก็จะมีประมาณนี้ อาจจะถ่ายมาไม่ครบน้า ต้องกราบขออภัย เพราะลืมเปลี่ยนเลนส์กล้อง 55555

ชานมไข่มุก คุมะมง แก้วละ 350 เยน รสชาติก็ธรรมดา ๆ เลย แต่ไม่หวานดี แต่ไข่มุกเม็ดเล็ก ๆ หนึบ ๆ ดี

ส่วนเมนูน่ารัก ๆ แก้วนี้  น่าจะเป็น กาแฟ ลาเต้ แต่ไม่ได้กินนะ แอบถ่ายของคนข้าง ๆ น่ารักดีจังอะ *0*

สินค้าคุมะมงภายใน Kumamon Square

พวกเครื่องเขียน และ ของใช้ในสำนักงานต่าง ๆ มีให้เลือกเยอะมาก ลายตาสุด ๆ

พวกจาน ชาม แก้วน้ำ ของใช้ในครัวเรือนก็มีนะ

ของกินก็ยังมีอะ ทั้งขนมปัง ช็อคโกแลต หรือแม้แต่ ราเมง

และจบด้วยการซื้อของมานิดหน่อย ๆ (ซื้อเยอะไม่ได้ เพราะต้องแบกกระเป๋าไปอีกหลายเมือง TT)

คุมะมง (KUMAMON くまモン ) เป็นมาสคอสชาย ประจำเมืองคุมาโมโตะ มีเอกลักษณ์เฉพาะเลยก็คือ กวน ขี้เล่น และน่ารัก แต่เค้ามีตำแหน่งเป็นถึง “ผู้อำนวยการฝ่ายขาย” เชียวล่ะ และเกิดมาเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอันดี ให้กับเมืองคุมาโมโตะกันเลยทีเดียว และที่สำคัญ “คุมะมงไม่ใช่หมี แต่เป็นคุมะมง” เอองงมะ!

การเดินทางมา Kumamon Square

• สถานีรถราง (Tram) : Suidocho
• สถานีรถบัส (Bus) : ป้าย Urusan Machi #15
• Open time: 10.00 – 19.00
• เช็ควันและเวลาโชว์ของคุมะมง :  http://www.kumamon-sq.jp/en/

หิมะแรกที่คุมาโมโตะ

ถ้าตามแพลนที่วางเอาไว้ เราจะไปต่อกันที่สวน Suizenji Garden (水前寺成趣園) แต่เนื่องจากเวลาเริ่มมืดแล้ว เพราะความเถลไถลของตัวเอง ทำให้ต้องเราตัดสินใจ นั่งรถราง สาย A กลับไปที่ สถานี Tasakibashi เพื่อไปเดินชอปปิง ตามถนนยอดฮิตสามสายประจำเมือง คุมาโมโตะ นั่นก็คือ Shimotori , Kamitori และ Sun Road Shishigai ซึ่งถนนสามสายนี้ จะเป็นทางเดินชอปปิงไปเรื่อย ๆ ติดกัน เดินเพลิน ๆ มีร้านอาหาร ร้านปาจิงโกะ ร้านอินเตอร์เนต และร้านของขายตลอดทางเดิน วันเสาร์เนี่ย คนครึกครื้นเอาเรื่องเลยล่ะ

มาเข้ามาถึงไม่นาน ก็เจอกับร้านนี้ เห็นคนเยอะดี เลยลองต่อแถวซื้อดูบ้าง เห็นป้ายเขียนว่า ชิ้นละ 100 เยน 2 ชิ้น 200 เยน … x ชิ้น x00 เยน แล้วคือ จะเขียนทำไม หรือกลัวบวกเลขไม่เป็น 5555555555

กินตอนร้อน ๆ ก็แก้หิวได้ดีเลยนะ แป้งนุ่ม ๆ หอม ๆ ส่วนไส้ก็มัน ๆ หวาน ๆ รวม ๆ แล้วก็อร่อยดีนะ แต่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมาย

เดินมาหน่อย ก็จะเจอ ร้านอะไรที่เกี่ยวกับคุมะมงตลอดทาง ต้องยอมเค้าล่ะ พ่อมาสคอตสุดฮอต อิอิ

ระหว่างทางก็จะมีร้านแบบนี้ตลอดทาง ซึ่งแต่ละร้าน ราคาก็ไม่เท่ากัน ตาดีได้ ตาร้ายเสีย จริง ๆ

เดินตัดผ่านถนนไปเรื่อย ๆ  เส้นไหนเป็นเส้นไหนก็ไม่รู้เท่าไหร่ เดินไหลตามเค้าไป ฮ่า ๆ

เจอร้านอาหารเยอะแยะมากมาย ทั้งราเมง ซูชิ แมคโดนัลด์ และพวก ยากิโซบะ

เราสะดุดกับร้านนี้ เนื่องจากเป็นร้านเล็ก ๆ ดูแล้วน่าจะอร่อย ก็เลยเดินเข้าซะเลย เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีที่นั่ง 5-6 ที่ เป็นเค้าเตอร์บาร์ หันหน้าเข้าหาคนทำตามสไตล์ญี่ปุ่น นั่งดมควันกันไป ได้ฟีลดี ฮ่า ๆ

เข้ามาถึงก็ชี้ ๆ ที่เมนู คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก ฮ่า ๆ พอเราคุยภาษาอังกฤษ เจ้าของร้านผู้หญิงเค้าไม่ฟังเลยอะ และพูดญี่ปุ่นใส่เรารัว ๆ เราก็โอเค ไม่เป็นไรจ้า กินอย่างเดียวก็ได้จ้า ฮ่า ๆ

แต่พอได้อาหารมา ความรู้สึกหม่นนั้นก็หายไป มันน่ากินมาก หอมมากก ๆ เมนูชื่อว่าอะไรไม่รู้ แต่จานนี้ 550 เยน รสชาติจะหอม ๆ อร่อยดีเลยล่ะ

ระหว่างที่กินอยู่ เค้าก็เปิดทีวีอยู่ เราเห็นข่าวว่า ภูเขาไฟ ASO ที่เราจะไปพรุ่งนี้ เหมือนมีการปะทุออกมา ไม่สามารถขึ้นไปชมได้ บวกกับอากาศ ที่เริ่มมีหิมะหนักขึ้น ทำให้เริ่มเฟลขึ้นมาอีก ตั้งใจมาดูภูเขาไฟอะโสะเลยอ่าาา ฮ่า ๆ แต่อยู่ ๆ เจ้าของร้านผู้ชาย ก็น่ารักมาก ๆ ยื่นส้มมาคนละลูก จึงขอถ่ายรูปด้วยซะเลย ผลก็ตามภาพที่เห็นน น่ารักจริง ๆ เป็นมิตรโคตร ๆ รู้สึกอบอุ่น แม้อากาศจะหนาวจับใจ ว๊ายยยยยน้ำเน่าเลยอ่าาา ฮ่า ๆ

ระหว่างทางเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับความบันเทิงทุกรูปแบบ

แวะเข้าร้าน คีบตุ้กตากันสักหน่อย

หลังจากนั้น เราก็เดินกลับไปยังที่พัก เพราะที่พัก เราอยู่ใกล้กับแหล่งชอปปิงเหล่านี้อยู่แล้ว

บรรยากาศตอนกลางคืนของเมืองคุมาโมโตะ คึกคักกว่าที่คิดไว้เลยแฮะ

ถ่ายหน้าตารถบัสคุมาโมโตะมาให้เชยชมกัน แม้จะไม่ได้นั่งก็เหอะ 🙂

ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับที่พักนั้น ก็รู้สึกว่า อากาศเริ่มเย็นขึ้นเรื่อย ๆ และรู้สึกเหมือนว่าฝนตกปรอย ๆ แต่เอ๊ะ มันไม่ใช่นี่หว่า เลยลองมองขึ้นไปที่ไฟ เหมือนจะเป็นก้อนเล็ก ๆ สีขาว หรือว่านี่จะเป็น …

“หิมะแรก ของทริปนี้ ที่คุมาโมโตะ”

เมื่อกลับมาถึงที่พัก อุณหภูมิข้างในที่พัก โคตรหนาวววเลยครับพี่น้องครับบบบ พื้นก็เย้นเย็นนนนนน ต้องใส่ถุงเท้าอะ สิ่งแรกที่ทำเลยก็คือ ปรับแอร์ ให้มีอุณหภูมิต่ำที่สุดดดเท่าที่ร่างกายจะอบอุ่นได้ เราจึงเลือกเตียงบน ติดแอร์ที่สุดเลย เพราะขี้หนาวสุด ๆ แต่บอกเลยว่า คืนนี้นอนหลับสนิท สบาย พร้อมตื่นมาเที่ยวในวันพรุ่งนี้แล้วจ้าาาา 🙂