เดี๋ยวพวกนายต้องไปเทรนนิ่งที่สเปน 2 เดือนนะ! หัวหน้าเดินมาตบบ่าเบาเบา พร้อมกับเรียกเข้าห้องประชุมเพื่อเตรียมตัวบินไปสเปน แบบที่เหลือเวลาอีกเดือนกว่า ๆ ให้ได้เตรียมตัวกัน ในความรู้สึกส่วนตัวแล้ว “สเปน” ไม่ได้เป็นประเทศที่อยากไปเที่ยวเลยสักนิด (เพราะไม่มีตังค์จะไปไง ฮ่า ๆๆ) ในความคิดนี่แบบเป็นประเทศที่ไม่มีอะไรดึงดูดนอกจากฟุตบอล! และวัวกระทิง!
สเปนอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ?
เมื่อคอนเฟิร์มแล้วว่าต้องไปจริงจัง เราก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้ โดยเริ่มจากเปิด Google Maps ดูนี่ล่ะ ง่าย ๆ เลย 5555 สเปนตั้งอยู่ในทวีปยุโรปฝั่งตะวันตก ด้านซ้ายติดกับประเทศโปรตุเกส ส่วนด้านขวาติดกับฝรั่งเศส และเป็นประเทศที่อยู่ในสมาชิก EU ซึ่งเราสามารถทำเชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) แล้วไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเชงเก้นได้เลย (เว้นแต่อังกฤษ ต้องทำวีซ่าแยก)
นี่ขนาดไม่อยากไป เที่ยวมาดริด นะ มีคิดในหัวไว้ด้วยอยากจะนั่งรถไฟไปฝรั่งเศส หรืออิตาลีด้วย อิอิ
ประเทศที่อยู๋ในกลุ่มเชงเก้น (ที่มา : https://blog.travizgo.com/tech/schengen-visa/)
*ถ้าเราเดินทางไปหลายประเทศในกลุ่มเชงเก้น เช่น ไปอยู่สเปน 2 อาทิตย์ แล้วเดินทางไปต่อที่ฝรั่งเศส 5-7 วัน ก็ให้เราไปทำวีซ่าเชงเก้น ณ สถานฑูต ของประเทศที่เราไปอยู่นานที่สุด ในกรณีตัวอย่างนี้ก็คือสเปนนั่นเอง จากนั้นถ้าอยากเดินทางไปประเทศไหนในกลุ่ม Schengen ก็สามารถเดินทางเข้า-ออกโดยที่ไม่ต้องทำวีซ่าใหม่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับวีซ่าที่เราได้ด้วยนะว่า Number of Entries เป็นแบบไหน
ประเภท Number of Entries ของเชงเก้นวีซ่า
- Single Entry หรือ 01 : เดินทางเข้า-ออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้ครั้งเดียว ในที่นี้เราสามารถเดินทางเข้า-ออกในกลุ่มเชงเก้นได้หลายครั้ง แต่ถ้าออกไปจากกลุ่มประเทศเชงเก้นแล้ว จะไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ต้องทำวีซ่าใหม่
- Two Entries : เดินทางเข้า-ออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้ 2 ครั้ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า 2 ประเทศ
- Multiple Entries : เดินทางเข้า-ออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้หลายครั้ง
*ในทีนี้ให้เรามองภาพรวมเป็นกลุ่มประเทศเชงเก้น ไม่ได้มองเป็นแต่ละประเทศ อาจจะงง ๆ หน่อย จะยกตัวอย่างให้ฟังเช่น เราได้วีซ่าเชงเก้นแบบ Single แล้วอยากกลับไทย และกลับเข้าเชงเก้นอีก แบบนี้จะไม่สามารถทำได้ ต้องทำวีซ่าใหม่ แต่ถ้าเราได้วีซ่าแบบ Two Entries หรือ Multiple Entries จะสามารถเข้าได้โดยที่ไม่ต้องดำเนินการทำเชงเก้นวีซ่าใหม่
ขั้นตอนการเตรียมตัวไปสเปน
1.วีซ่าสเปน : ยื่นขอวีซ่าผ่านอเจนซี่ BLS เท่านั้น คลิกเพื่ออ่านรีวิวการทำ วีซ่าสเปน
2.เสื้อผ้ากันหนาว : เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางผ่านเว็บ accuweather.com สภาพอากาศที่สเปนในเดือนมกราคม – มีนาคมส่วนใหญ่สเปนจะไม่มีหิมะ แต่ลมแรง และอากาศค่อนข้างหนาว บางวันเช้า ๆ 8-9 โมงเช้าถึงขั้นติดลบ! โคตรพ่อ โคตรแม่หนาว!
เสื้อขนเป็ดแบบนี้ช่วยกันหนาวได้ดีมาก พกไปไม่ผิดหวังแน่นอน อย่างในรูปนี้เป็นยี่ห้อ Giordano ใช้ดี ทนแดด ทนฝน แนะนำเลย!
3.ที่พัก : ถ้ามีเพื่อนหรือคนรู้จักอยู่สเปนยิ่งดี เพราะจริง ๆ แล้ว สเปนเป็นประเทศที่ค่อนข้างน่ากลัวในเรื่องของอาชญากรรม ขนาดเว็บไซต์สถานฑูตไทยในสเปนยังมีการเตือนเรื่องนี้ อ่านลิงค์ต้นเรื่อง >> www.thaiembassy.org/madrid/th/thai-people
แต่ถ้าให้เราแนะนำแหล่งที่พักในการ เที่ยวมาดริด ที่ค่อนข้างปลอดภัย ต้องย่าน Neuvous Ministries ซึ่งเป็นย่านกระทรวงต่าง ๆ สถานที่ราชการเยอะ ที่ช้อปปิ้งเพียบ ค่อนข้างจะปลอดภัย ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังไม่พลุกพล่านมากด้วย เดินทางก็สะดวก มีทั้งรถไฟ Metro และรถไฟ Mainline อีกอย่างหนึ่ง คือ ใกล้สนาม Santiago Bernabeu รังเหย้าของรีลมาดริด สโมสรฟุตบอลชื่อดังระดับโลกอีกด้วย แบบที่ว่าสามารถเดินไปสนามได้สบาย ๆ ประมาณ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้น
4.การเดินทาง : การเดินทางในสเปน ไม่ว่าจะใกล้ไกล รถไฟก็มีให้บริการอย่างทั่วถึง ค่าบริการก็ไม่แพงมากนัก มีทั้งแบบเหมา 10 รอบ และรอบเดียว รถไฟจะแบ่งออกเป็นสายสีต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายจะแบ่งเป็นโซน เช่น ถ้าเราซื้อตั๋วจากสถานี A ไปสถานี D จำนวน 10 รอบ อยู่มาวันนึง เราอยากแวะลงเที่ยวที่สถานี G ซึ่งอยู่โซนเดียวกันกับสถานี D ที่เราซื้อไว้ เราก็สามารถลงที่สถานี G ได้เลย ไม่ต้องซื้อใหม่ ตรงนี้ถือว่าสะดวกมาก ๆ
ส่วนรายละเอียดเรื่องตั๋วรถไฟ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บ www.renfe.com
5.ของจิปาถะอื่น ๆ : เราจะพูดถึงสิ่งสำคัญ ๆ ที่ต้องเตรียมไปเท่านั้นนะ
1) บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการใช้ชีวิตที่สเปน เพราะที่นี่เขา Card-less society ของจริง ขนาดร้านฟาสฟู้ดทั่วไปคนยังนิยมจ่ายด้วยบัตรมากกว่าเงินสด จากที่เราสังเกตนะผู้คนเขาใช้บัตรกันเกิน 90% เลย มีเรานี่ล่ะ คนเดียวที่ใช้เงินสด ฮ่า ๆๆ แถมถ้าใช้แบงค์ใหญ่ก็จะยากขึ้นไปอีก เพราะพนักงานจะต้องนำแบงค์เราไปตรวจว่าเป็นแบงค์จริงหรือไม่ แต่จริง ๆ ก็ใช้แบงค์ได้ล่ะ ไม่มีปัญหา แค่อาจเสียเวลาเพิ่มนิดหน่อยเท่านั้นเอง
บางร้านค้า บางบริการที่ต้องใส่พินสำหรับบัตรเครดิต ตรงนี้ให้บอกเขาไปว่าเราไม่มีพิน I have no PIN เขาก็จะกดทำรายการให้ต่อไป
สำหรับบัตรเครดิต หรือเดบิตที่อยากแนะนำ ให้เพื่อน ๆ เลือกบัตรที่เสียค่าความเสี่ยงในการแปลงสกุลเงินน้อย หรือเลือกโปรโมชั่นบัตรเครดิตที่ใช้ในต่างประเทศแล้วแต้ม *2 อะไรก็ว่าไป
บัตรกรุงไทยทราเวิลการ์ด (Krungthai Travel Card) เป็นอีกหนึ่งบัตรที่อยากจะแนะนำมากกก เพราะสะดวกจริง ๆ คือ บัตรนี้เป็นบัตรเดบิตที่เราต้องมีเงินไทยในบัญชีที่เราผูกกับบัตรไว้ก่อน จากนั้นเมื่อเราต้องการจะใช้งานให้เราซื้อเงินสกุลนั้น ๆ ผ่านแอพ Krungthai Next ในที่นี้คือเงินยูโร จะซื้อเท่าไหร่ก็ว่าไป แล้วเราก็ยืนยันยอดเงินที่เราต้องการจะซื้อ จากนั้นเมื่อเรามีเงินสกุลนั้น ๆ ในบัตรแล้ว ก็สามารถรูด-แตะซื้อสินค้าบริการได้ทันทีเลย
ส่วนถ้าเราอยากขายเงินสกุลนั้นคืน ก็เข้าผ่านแอพแล้วกดขายเหมือนเดิม แต่ถ้าค่าเงินสกุลนั้น ๆ กำลังอยู่ในช่วงขาลง เราก็สามารถถือไว้ก่อน แล้วขายทีหลังได้ แบบนี้อุ่นใจสุด ๆ ปลอดภัยหายห่วง ไม่ต้องพกเงินสดเยอะ ๆ
2) ประกันการเดินทาง เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรทำเวลาก่อนไปต่างประเทศอยู่แล้ว เลือกเจ้าที่เงื่อนไขไม่เยอะ และเคลมได้จริง! เพราะบางเจ้านี่เน้นถูกไว้ก่อน เขียนบรรยายซะเว่อร์วัง แต่พอเกิดเหตุแล้ว ไม่สามารถเคลมได้ เพราะไม่เข้าเงื่อนไข ซะงั้น! เพราะฉะนั้นก่อนซื้อประกันการเดินทางทุกครั้งควรอ่านรายละเอียดให้รอบคอบก่อนเน้อ
3) เงินสด แลกเงินสดไปพอประมาณ ไม่เยอะ ไม่น้อยเกินไป แต่อย่างที่บอกไปในข้อ 1 คนที่นี่นิยิมใช้บัตรเครดิต/ เดบิต กันมาก น้อยร้านที่จะไม่รับบัตร และเวลาพกเงินสดไปข้างนอก ให้แยกเก็บหลาย ๆ ที่ และต้องไม่เป็นที่สะดุดตามากนัก
สำหรับค่ากินต่อมื้อที่สเปนนั้นตกอยู่ที่มื้อละประมาณ 7-15 ยูโร แล้วแต่ประเภท และความหลากหลายของอาหาร อย่างร้านหรู ๆ ก็ราคาประมาณนี้ เข้าได้เลยไม่ต้องกลัว ราคาจะไม่ค่อยแพงโดดเหมือนกับร้านอาหารหรู ๆ ที่ไทย
4) เก็บไฟล์เอกสารสำคัญในมือถือ โน๊ตบุ๊ค หรือ Cloud storage ได้แก่ หน้าบัตรเครดิตที่มีติดตัว เผื่อกรณีบัตรหายแล้วต้องอายัดทันที / สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport & Visa) / บัตรประชาชน / ทะเบียนบ้าน / ใบจองโรงแรม / ประกันการเดินทาง / แผนการเดินทาง และเอกสารสำคัญส่วนตัวอื่น ๆ
5) ของใช้จิปาถะที่สำคัญ เช่น หัวแปลงปลั๊ก / ปลั๊กพ่วง / ร่ม หมวก / ยาประจำตัว / ทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก และของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะเสื้อกันหนาวเตรียมไปให้พร้อม! เทคนิคที่แนะนำ คือ ให้ใส่หลาย ๆ ชั้นจะอุ่นกว่า เช่น ด้านใน Heattech หนึ่งตัว ตามด้วยเสื้อแขนยาว และปิดด้วยขนแกะ ถุงมือ และหมวกไหมพรม แค่นี้ก็อุ่นแล้วสำหรับอากาศเลขตัวเดียว
6) เสบียงอาหาร เนื่องจากรู้ ๆ กันอยู่ว่าอาหารฝั่งยุโรปนั้นค่อนข้างออกไปทาง “จืด” ต้องมีของที่ไม่ถูกปากคนไทยอย่างเรา ๆ เยอะแน่ ๆ เสบียงที่อยากให้เตรียมไปก็พวกของแห้งทั้งหลาย น้ำพริกแบบแห้ง หมูฝอย หมูแผ่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กับข้าวพร้อมทาน ขนมขบเคี้ยวที่น้ำหนักเบา ถ้าอยู่นาน ๆ พกไปเหอะครับ ไม่เสียหาย อย่างของที่เรากินบ่อยที่สุดต้องยกให้ “น้ำพริก” กินได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ
7) ซิมการ์ด ซื้อที่สเปนถูกกว่าเยอะ ส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่นลูกค้าใหม่ด้วย เช่น ฟรีดาต้า 10GB เมื่อเปิดใช้เบอร์ใหม่ เป็นต้น ค่ายที่นิยมใช้กันก็มี Vodafone, Movistar หรือ Orange เป็นต้น ราคาเริ่มต้นก็ถือว่าไม่แพงมากเริ่มที่ 10 ยูโร
เมื่อเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางสู่สเปน เที่ยวมาดริด กันเลยจ้า!
รีวิวเที่ยวสเปนทั้งหมด
- EP.1 – เมื่อผมถูกส่งไปทำงานที่สเปน 2 เดือน
- EP.2 – ยื่นขอวีซ่าสเปนในประเทศไทย
- EP.3 – รีวิว Turkish Airlines ระหว่างเดินทางไปมาดริด
- EP.4 – โรงแรม NH Zurbano ใกล้สถานีรถไฟฟ้า Nuevos Ministerios
- EP.5 – เบอร์เกอร์ Five Guys ชิ้นใหญ่ ชีสเยิ้มสะใจ ฟรีถั่วไม่อั้น
- EP.6 – Goiko Grill สุดยอดเบอร์เกอร์อันดับ 1 ในสเปน ที่ห้ามพลาด
- EP.7 – ชูโรส Chocolateria San Gines ร้านช็อกโกแลตอันโด่งดัง
- EP.8 – อาหารสเปน & อาหารนานาชาติที่มาดริด
- EP.9 – เที่ยวมาดริด ลัดเลาะตัวเมือง ช้อปปิ้งไม่มีเบื่อ
- EP.10 – ดูบอลสเปน ติดสนาม Real Madrid vs Sevilla
- EP.11 – สำรวจสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตในสเปน
- EP.12 – พาเที่ยว Outlet และคลองถมเวอร์ชั่นสเปน
7 thoughts on “Hola Madrid EP.1 – เมื่อผมถูกส่งไปทำงานที่สเปน 2 เดือน”